Home

วันศุกร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2559

[MARKBAM]อยากเป็นคนสำคัญของเธอ




อยากเป็นคนสำคัญของเธอ MB




“ดูนั่นสิ เขามาแล้ว”
“โอ๊ย ทำไมหล่อแบบนี้นะ”
“ฉันจะไม่ทน พ่อของลูกชัดๆ”
ใครเขาอยากเป็นพ่อของลูกเธอกันผู้หญิงพวกนี้มโนกันน่ากลัวจริงๆเลย แต่ก็จะโทษพวกเธอก็ไม่ได้เพราะผมน่ะมันหล่อจริงๆของป๊าเขาแรงครับผมเลยได้เชื้อมาดี นี่ผมก็ไม่ได้อวยตัวเองหรอกนะเพราะที่ผมพูดมาทั้งหมดนี่คือความจริงล้วนๆ แต่ก็ได้เท่านั้นแหละครับเพราะว่ามีคนนึงเขาไม่สนใจผมเลย มันทำให้ผมเริ่มไม่มั่นใจแล้วล่ะว่าผมหล่อเหมือนที่ว่ามาจริงๆมั้ย วันๆผมเห็นเขาเอาแต่นั่งอ่านหนังสือไม่สนใจสิ่งรอบข้างเลย ไปไหนมาไหนคนเดียวไม่สุงสิงกับใครตั้งแต่ที่ผมบังเอิญเห็นเขาบ่อยๆนะผมยังไม่เคยเห็นเพื่อนเขาเลยสักคน
“มาร์คยืนดูอะไรของมึงอ่ะ” เสียงของไอ้แจ็คสันเพื่อนรักเรียกให้ผมหลุดออกจากภวังค์ก่อนที่จะเดินไปหามันกับไอ้เจบีที่ตั้งท่าจะเดินมาหาผม ไม่ได้ๆต้องดักไว้ก่อนเดี๋ยวมันรู้ว่าผมดูอะไร
.
.
.
.
.
.
.
นั่นไงๆ น้องแบมแบมนั่งอยู่ตรงนั้นคนเดียวอีกแล้ว ไม่ได้การละผมควรจะอยู่เป็นเพื่อนน้อง ผมเป็นรุ่นพี่ที่ดีครับและที่ที่ผมอยู่ตรงนี้มันก็ดีต่อการหลบแฟนคลับผมด้วย -พุ่มไม้-
กึก
“โอ๊ย” น้องแบมร้องออกมาเบาๆหลังที่ผมปาลูกอมรสสตอเบอรี่ไปให้น้องแบมด้วยความรักสงสัยความรักของพี่มาร์คกระแทกหัวน้องแรงไปหน่อยน้องแบมถึงร้องออกมา น้องแบมเก็บลูกอมแล้วหันซ้ายหันขวาเหมือนจะหาเจ้าของและที่มาของลูกอม ฮี่ฮี่ มาร์ค ต้วน ผู้นี้ไม่แสดงตัวให้เห็นหรอก
กึก
“โอ๊ย” ต้องปาอีกเม็ด
กึก
“โอ๊ย” ยังไม่พอหรอก
กึก
“โอ๊ย” ความรักพี่มีเยอะ น้องแบม
กึก
“โอ๊ย” เสียงสุดท้ายร้องขึ้นหลังจากที่ผมปาลูกอมเม็ดที่ห้าไปน้องก็ลุกขึ้นยืนแล้วเก็บหนังสือที่อยู่บนโต๊ะลงกระเป๋าพร้อมลูกอมห้าเม็ดของผมด้วยแล้วเดินออกไปจากโต๊ะทันทีที่ได้ยินเสียงกริ่งของโรงเรียนดังบอกเวลาเริ่มคาบบ่าย ผมโผล่ออกมาจากพุ่มไม้แล้วก็ค่อยๆเดินออกมา อ่า กลับห้องตัวเองบ้างดีกว่าทำไมรู้สึกมีความสุขจังเลยนะรู้สึกหน้าจะบานๆด้วย แก้มก็ปวด ยิ้มจนปากจะฉีกแล้ว น้องแบมบ้าทำพี่มาร์คเขิน
.
.
.
.
.
.
.
ภารกิจวันนี้ยังไม่เสร็จสิ้นหรอกนะครับเพราะผมเป็นรุ่นพี่ที่ดีต้องส่งรุ่นน้องกลับบ้านเข้าตามโครงการส่งน้องกลับบ้าน ตอนนี้ผมก็กำลังเดินส่งน้องอยู่ดีหน่อยที่ทางเข้าบ้านน้องมันไม่เปลี่ยวเท่าไหร่แต่ก็ไว้ใจไม่ได้เหมือนกันผมคิดว่าผมเป็นบอดี้การ์ดให้น้องดีสุด แต่น้องเขาไม่รู้ตัวหรอกครับเพราะผมแอบตามมาส่งเขาแบบลับๆและนี่เป็นครั้งแรกที่ทำด้วยมาส่งน้องเข้ากลับบ้านเนี่ย น้องแบมเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่คิดอะไรมากแบบนี้น้องเขาไม่ระวังตัวเลยนะถ้าเกิดว่ามีโจรโรคจิตตามน้องอยู่จะทำยังไง นี่ขนาดผมตามน้องเขายังไม่รู้ตัวเลย แย่จัง ผมว่าผมควรมาส่งน้องกลับบ้านบ่อยๆซะแล้ว
โฮ่ง ง
เสียงหมาทำให้น้องแบมหยุดเดินก่อนที่เจ้าหมาจะมองหน้าน้องแบม ไอ้หมานี่กล้าดียังไงมองหน้าน้องแบมเนี่ย มันหาเรื่องน้องแบมแน่ๆผมเห็นน้องแบมยืนตัวสั่นเลยอย่างนี้ผมต้องไปช่วยน้องเขาจากไอ้หมาเวลช์ คอร์กี้นี่ซะแล้ว
กึก
ทันทีที่ผมกำลังจะเดินออกจากที่ซ่อนผมก็เห็นผู้ชายตัวใหญ่ร่างท้วมเดินเข้ามาหาน้องแบมแล้วน้องแบมก็กระโดดกอดผู้ชายคนนั้นด้วยพร้อมกับเจ้าหมาขาสั้นที่ตอนนี้กระโดดไปมารอบสองคนที่กำลังกอดกัน นั่นพ่อน้องแบมหรอ หน้าตาใจดีเหมือนน้องแบมเลย ตอนนี้หน้าที่ผมก็เสร็จแล้วสิเนี่ยผมควรกลับบ้านได้ละ

ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
เสียงหัวเราะจากในตัวบ้านที่ฟังแล้วดูทุกคนมีความสุขกันจังเลย ความจริงผมกลับบ้านแล้วกลับมาบ้านน้องแบมเนี่ย ไม่รู้เพราะอะไรบอกตัวเองควรกลับบ้านเท้าก็เดินตามเขากับพ่อมาต้อยๆจนมาถึงบ้านน้องแบมแล้วมองเขาจากข้างนอกบ้านเนี่ย สโตกเกอร์รึไงล่ะกู
เฮ้อ กลับบ้านดีกว่ามิชชั่นคอมพลีท
.
.
.
.
.
หันซ้ายแลขวา ไม่มี ไปได้ ตอนนี้เป็นตอนเที่ยงของวันเด็กนักเรียนคนอื่นไปทานข้าวเที่ยงกันหมดแล้วทุกคนที่นี่ไปทานที่โรงอาหารกันแหละยกเว้นก็แต่คนนึงที่อยู่ที่ห้องทานข้าวเที่ยงคนเดียว และตอนนี้เป็นเวลาอันสมควรแล้ว ผมเดินมาโต๊ะน้องแบมที่ตอนนี้มีข้าวกล่องวางอยู่บนโต๊ะสงสัยตอนนี้น้องแบมคงไปล้างมือที่ห้องน้ำแน่เลย ผมรีบวางของแล้วรีบเดินออกมาเดี๋ยวน้องแบมเห็นจะยุ่งเอา ไม่ได้ๆ
ผมเห็นน้องแบมเดินเข้ามาในห้องแล้วครับผมไม่ได้ไปไหนไกลหรอกแอบๆอยู่แถวหน้าห้องน้องนี่แหละ น้องดูเหมือนจะงุนงงกับสิ่งของตรงหน้านะ มันคือนมสตอเบอรี่ที่มีโพสอิสลายมือผอแปะไว้ผมชอบมากผมดื่มมันทุกวันและผมก็อยากแบ่งปันสิ่งที่ชอบให้น้องแบมด้วย ผมมองดูน้องแบมกินข้าวไปเงียบๆเรียกอีกอย่างว่านั่งเฝ้าน้องแบมกินข้าวก็ว่าได้ ผมรอจนน้องแบมกินเสร็จนั่นแหละแล้วน้องเขาก็ยกกล่องนมขึ้นก่อนจะเจาะแล้วดูด
YES
MISSIONS COMPLET
.
.
.
.
.
.
.
นี่ก็ผ่านมาสามเดือนแล้วครับทุกอย่างยังเหมือนเดิม ให้ขนมน้องแบม ไปส่งน้องกลับบ้าน ให้นมสตอเบอรี่ ลับๆ ผมทำแบบนี้ซ้ำๆผมคิดว่าผมมีความสุขนะแค่ได้ดูได้มองได้ดูแลน้องเขาแบบห่างๆแบบนี้ อยู่ห่างๆอย่างห่วงๆไม่ได้ต้องการที่จะครอบครองเขาไว้กับตัวเองเป็นแบบนี้มันก็ดีแล้ว
ซะเมื่อไหร่ล่ะ
ไอ้บ้านั่นมันเป็นใคร กล้าดียังไงมาคุยกับน้องแบมแบบนี้ แล้วไหนมันกำลังเดินไปส่งน้องแบมที่บ้านอีกนี่มันหน้าที่ผมนะ ไอ้บ้านี่ รู้งี้ไม่ปล่อยไว้แบบนี้ก็ดีน่าจะบอกน้องตั้งแต่วันแรกที่ชอบไปเลย ดูมันๆมาส่งก็กลับสิวะหน้าด้านเข้าบ้านน้องแบมทำไมเนี่ย นี่มาส่งทุกวันยังได้แค่แตะรั้วบ้านมองเขาเลย ช่างกล้าแท้
ไม่ไหวแล้วเว้ย ต้องบอกน้องเขา ต้องแสดงตัว จะให้หมาคาบไปแดกไม่ได้
แกร๊ก
เสียงเหมือนประตูทำให้ผมที่ยืนอยู่ข้างๆรั้วบ้านต้องรีบไปแอบหลังพุ่มไม้ทันที ผมมองน้องแบมกับไอ้หน้าด้านคุยกันที่หน้าประตูบ้านอย่างกระหนุงกระหนิงขัดลูกกะตามาก แต่ก็ทนดูจนจบ ทั้งสองกอดกันก่อนแยกย้ายไปผมจึงออกมาจากที่ซ่อน อะไรวะนี่ชอบมาสามเดือนมือยังไม่ได้แตะขนาดใกล้ในระยะสองเมตรยังไม่เคยเลย ไอ้นี่มาแป๊บเดียวได้กอดจากน้องแบมไปเฉยเลยต่อหน้าต่อตามาร์ค ต้วนคนหล่อคนนี้ด้วย หรือว่ารักครั้งนี้ควรจะปล่อยไป?
สู้ต่อมีทางชนะมั้ย?
ควรเปิดเผยตัวตนแล้วจีบแบบเปิดเผย?
.
.
.
.
.
.
.
.
ก๊อก ก๊อก ก๊อกๆๆๆๆๆๆๆๆ
เสียงเคาะประตูหน้าบ้านทำให้ผมจำต้องตื่นมาเพื่อไปเปิดประตู ประตูรั้วบ้านผมจะไม่ล็อคแต่จะปิดไว้เฉยๆถ้ามาก็เคาะที่ประตูบ้านเอาคนที่สนิทกับผมจะรู้ข้อนี้ ใครมากัน เจบี?แจ็คสัน? วันนี้ไม่ใช่วันหยุดแต่ผมหยุดเองรู้สึกไม่มีอารมณ์จะเรียนไม่อยากเจอหน้าน้องแบมรู้สึกทำใจไม่ได้แบบประหลาดๆเลยหยุดเรียนมันซะเลยขี้เกียจไปเรียนด้วยแหละประเด็น ผมเดินไปเปิดประตูบ้านก่อนจะดูว่าใครมาใบหน้าน่ารักในชุดนักเรียนที่ยืนยิ้มแฉ่งให้ผมพร้อมกับของมากมายในมือเล่นเอาผมช็อคไปเลย น้องแบม!
“ได้ข่าวว่าไม่สบาย” น้องว่าแล้วก็แทรกตัวเข้ามาในตัวบ้านทันทีผมได้แต่ยืนช็อคไม่หายกับการที่เจอคนตัวเล็กที่นี่ มาได้ยังไง? ไปรู้ที่อยู่บ้านตอนไหน? ผมปิดประตูแล้วเดินตามคนตัวเล็กไปอย่างเงียบๆ ทำไมต้องมาตอนนี้ด้วยนะยังไม่พร้อมเจอหน้าเลย
“ห้องครัวอยู่ไหนฮะ” ผมชี้บอกทางคนตรงหน้าที่ตอนนี้เดินเข้าไปในห้องครัวแล้ว น้องแบมใส่ชุดนักเรียนวันนี้โรงเรียนไม่หยุดอย่าบอกนะว่าหนีเรียนมาน่ะ
“หนีเรียนหรอ” ผมถามคนตัวเล็กที่เดินไปเดินมาหาอุปกรณ์ครัว
“เปล่า มาดูแลคนป่วย” ผมไม่ได้เป็นอะไรเลยนะครับผมว่าน้องแบมมาผิดบ้านรึเปล่านะ
“ที่นี่ไม่มีใครป่วยนะ” ผมพูดตามความจริงผมไม่ได้ป่วยอะไรเลยเมื่อเช้าแค่โทรบอกไอ้เจบีว่าป่วยตอแหลให้มันลาครูให้ น้องแบมหยุดชะงักนิดนึงก่อนที่จะชี้นิ้วมาทางผม
“นี่ไงคนป่วย พี่แจ็คสันกับพี่เจบีบอกมางี้” ว่าเสร็จน้องแบมก็หันหลังกลับไปทำอาหารเหมือนเดิมโดยไม่สนใจผมอีกเลย
“เสร็จแล้วครับ” น้องจัดการยกอาหารมาวางให้ผมตรงหน้าพร้อมกับนั่งตรงข้ามผมทันที
“ทานสิฮะ” น้องแบมพยายามคะยั้นคะยอให้ผมทานอาหารหลังจากที่ผมเอาแต่นั่งนิ่งคือผมกำลังงงกับการที่น้องมาอยู่ที่บ้านผม มันก็ดีใจด้วยแหละนะที่จู่ๆคนที่ชอบมาที่บ้านแต่ก็สงสัยมาทำไมกัน
ผมนั่งทานข้าวที่น้องแบมทำไปเรื่อยๆไม่อยากจะบอกเลยว่าน้องเขาทำอร่อยมากๆฝีมือนี่คุ้นๆเหมือนจะเป็นภรรยาผมในอนาคตเลยครับคุณผู้ชม เราทั้งคู่ต่างฝ่ายก็ไม่ได้พูดไรออกมาน้องแบมนั่งมองผมทานข้าว ทำเอาเขินจนกินลำบากกันเลยทีเดียวแต่ทันทีที่ผมทานหมดน้องเขาก็หยิบจานผมไปแล้วก็จัดการล้างให้ทันที นี่น้องเขาเตรียมเป็นภรรยาผมจริงๆใช่มั้ยเนี่ย
“นี่ยาครับ” น้องวางลูกอมรสสตอเบอรี่กับนมกล่องรสสตอเบอรี่ที่ผมชอบกินไว้บนโต๊ะ
“ขอตัวกลับนะครับ” ว่าเสร็จก็ลุกเดินออกไปเลย อะไรกันเนี่ย มาแค่นี้แล้วก็ไปน้องแบมต้องการอะไรจากพี่มาร์คครับมาให้ความหวังงั้นหรอหรืออะไร เอ๊ะ แล้วน้องรู้จักผมด้วยหรอปกติไม่เห็นสนใจใครหนิ ผมหยิบนมสตอเบอรี่ที่มีโพสอิสติดอยู่ตอนน้องเอามาวางไว้ก็ไม่เห็นหรอกแต่พอพลิกกล่องถึงเห็น
ไม่เข้ามาขอคบสักที
แบบนี้แล้วผมจะตอบตกลงได้ไงล่ะพี่มาร์ค ต้วน
-แบมแบม-
ข้อความนี่มันอะไรกัน  หรือว่าน้องรู้เรื่องที่ผมแอบดูแลน้องเขาตลอดนี่มันเรื่องบ้าอะไรกันน้องเขารู้นานแล้วหรอวะ แล้วผู้ชายคนเมื่อวานล่ะใคร ไม่ได้การล่ะน้องแบมอ่อยขนาดนี้ผมจะยอมไม่ได้ ผมลุกขึ้นวิ่งออกไปตามอีกคนทันทีที่คิดได้ผมวิ่งมาเรื่อยๆมาหน้าปากซอยเพราะว่าถ้าเลี้ยวขวาไปอีก50เมตรก็จะเป็นป้ายรถเมล์หวังว่าน้องแบมยังไม่ขึ้นรถไปนะ นั่นไง น้องแบมกำลังเดินขึ้นไปแล้วผมวิ่งสุดกำลังเพื่อให้ถึงตัวน้องแบม
หมับ
ในที่สุดผมก็จับแขนน้องเขาได้ผมลากน้องแบมลงมาจากรถที่น้องกำลังขึ้นได้แค่บันไดขั้นแรกน้องเขาก็เดินตามมาอย่างว่าง่ายพร้อมกับก้มหน้าไม่ยอมเงยขึ้นมาเลย
“คบกับพี่นะ” ผมหยุดลากน้องแบมแล้วก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรผมจับมือน้องแบมไว้ทั้งสองข้างแล้วขอคบทันทีเลยผมกลัวว่าช้ากว่านี้แล้วคนตรงหน้าจะหายไป แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือความเงียบน้องแบมไม่ตอบอะไรผมเลยมันริ่มทำให้ผมใจสั่น หรือว่าสิ่งที่เขียนในโพสอิสจะเป็นเรื่องโกหก
“น้องแบมคบกับพี่มาร์คนะ” ผมพูดไปอีกครั้งโดยเอ่ยชื่อน้องแบมกับชื่อผมลงไปด้วยเผื่อเมื่อกี้น้องไม่รู้ว่าผมขอคบใครแต่ปฏิกิริยาที่ตอบสนองของน้องแบมคือแก้มที่แดงเหมือนลูกมะเขือเทศพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูเหมือนจะกลั้นมันไว้ น้องแบมพยักหน้าน้อยก่อนจะก้มหน้าเขินมันทำให้ผมยิ่งอยากแกล้งคนตรงหน้านี้
“น้องแบมเป็นแฟนพี่มาร์คนะ” ทันทีที่ผมเอ่ยประโยคนี้มันยิ่งทำให้น้องก้มหน้ามากกว่าเดิมแก้มที่ว่าคงไม่แดงมากกว่านี้แล้วกลับแดงมากขึ้นไปอีกอะไรจะเขินขนาดนั้นนะน้องแบม
“น้องแบมเป็นแฟนพี่มาร์คแล้วนะ”ผมก็ถามย้ำเรื่อยๆแกล้งอีกคนที่ก้มหน้าอยู่น้องแบมก็พยักหน้าตอบกลับมาแต่ก็ไม่เงยหน้ามองผม
“น้องแบมเป็นแฟนพี่มาร์คแล้วจริงๆนะ”
“งื้อออ” พอผมพูดย้ำมากขึ้นน้องก็ส่งเสียงเหมือนงอแงพร้อมกับยกกำปั้นขึ้นมาทุบอกผมเบาๆแล้วซบลงที่อกผม โอกาสเหมาะขนาดนี้ผมไม่พลาดยกแขนขึ้นโอบกอดคนตรงหน้าทันที ตัวหอมจัง
“เป็นแฟนกันแล้วจริงๆนะ” ใครจะว่าผมย้ำทำไมนักหนาแต่ผมอยากจะย้ำมันแบบนี้นี่ก็นะผมอยากมั่นใจว่าไม่ได้ฝัน
“อื้อออ” น้องตอบกลับมาในลำคอทั้งๆที่หน้าก็ซบอกผมอยู่
“ไหนจะตอบตกลงไง” ผมท้วงร่างเล็กในอ้อมกอดอีกทีก็ตั้งแต่พูดขอคบมานี่น้องแบมยังไม่ตอบตกลงเลย
“ตกลง” น้องแบมตอบตกลงแบบว่าง่ายหรือน้องรอพูดคำนี้นานแล้วผมนี่มันนิสัยไม่ดีจริงๆให้น้องค่อยนาน
เป็นแฟนกันแล้วก็ควรจะทำอะไรที่แฟนเขาทำกันสินะ ผมผละอ้อมกอดออกจากน้องแบมลืมไปเลยว่านี่อยู่ข้างถนนผมจับมือน้องแบมมาก่อนจะลากน้องเขาอีกที ผมควรจะทำอะไรที่แฟนเขาทำกัน
“พี่มาร์คจะพาแบมไปไหน” น้องแบมเหมือนจะตกใจที่จู่ๆผมก็ลากมาแต่น้องก็ตามมาแต่โดยดี
“ไปเดท”
“หะ เดท!” เสียงน้องดูเหมือนตกใจกับคำตอบของผม ก็แน่ล่ะมันกะทันหันแบบนี้ใครจะไม่ตกใจ
“ที่ไหน ทำไมกะทันหันแบบนี้ล่ะพี่มาร์ค” คำถามของน้องไม่ได้ทำให้ผมหยุดเดินแต่ทำให้ผมหันหน้ามาตอบพร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยน
“บ้านจ๊ะ”



END



______________________________________________________________

ชื่อเรื่องไม่สัมพันธ์กับเนื้อเรื่องเลย ฮ่าๆ