Home

วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

[MARKBAM] RAIN


Rain MB


ครืน ครืนนน
เสียงฟ้าร้องในยามเย็นทำให้ใครหลายๆคนกลับบ้านของตนเองอย่างเร่งรีบเพราะบางคนก็ไม่มีร่มจึงต้องรีบกลับบ้านให้เร็วที่สุดแต่คนที่มีร่มก็จะสบายหน่อยที่ไม่ต้องรีบเหมือนคนอื่น
ซ่า ซ่า
แต่กับคนที่ไม่มีร่ม...
“อ่า ตกจนได้” เสียงฝนตกลงมาห่าใหญ่ทำให้ชายหนุ่มหน้าตาดีต้องรีบกุลีกุจอหาที่หลบฝนเป็นการใหญ่ เขานั่งหลบฝนอยู่ตรงกันสาดร้านค้าแห่งหนึ่ง
“เฮ้อ” ชายหนุ่มถอดถอนหายใจอย่างแผ่วเบาสายตามองไปยังสายฝนที่ยังเทกระหน่ำลงมาอย่างต่อเนื่องไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลยสักนิดทำให้เขาคิดหนัก เขาคิดว่าวันนี้เขาจะรีบกลับบ้านให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะได้นอนให้หายเหนื่อยเสียหน่อยแต่ต้องมาติดฝนแบบนี้ทำให้เขาไม่ประสบอารมณ์เอาเสียเลยจริงๆ
จึก จึก
แรงสะกิดเบาๆที่ต้นแขนทำให้ชายหนุ่มหันหน้าไปมองที่มาก็เจอกับชายอีกคนที่ยืนก้มหน้าสวมหมวกปิดใบหน้าอยู่ ชายหนุ่มมองชายอีกคนอย่างงงๆก่อนที่จะมีแรงดันเบาๆที่ถูกส่งมาจากชายแปลกหน้า ชายหนุ่มไล่สายตาไปตามเรียวแขนจนมาถึงมือของชายแปลกหน้าก็พบกับร่มคันหนึ่งที่ถูกส่งมาให้ เขาเงยหน้ามองคนตรงหน้าที่ตอนนี้พยักหน้าให้เขาเชิงบอกว่าให้เขายืมร่มคันนี้
“นายให้ฉันยืมหรอ”
“...” ไม่มีเสียงตอบรับแต่มีเพียงหัวที่ขยับขึ้นลงไปมาเบาๆ
“แล้วของนายล่ะ” ชายตรงหน้าไม่ตอบเพียงยกมืออีกข้างขึ้นมาจับที่ข้างกระเป๋าจึงทำให้ชายหนุ่มเห็นร่มอีกคันนึงที่อยู่ในช่องกระเป๋าด้านข้าง
“ขอบใจนายมากนะ” ชายหนุ่มคว้าร่มในมือของชายแปลกหน้าตรงหน้ามาก่อนจะกางร่มแล้วเดินจากไปทันที โดยที่ลืมคิดที่จะหาช่องทางการติดต่อเพื่อที่จะคืนร่ม
ฟู่ ฟู่
เสียงไดร์เป่าผมที่ชายหนุ่มหยิบมาใช้เป่าผมอย่างสบายใจเตรียมตัวที่จะเข้านอน เมื่อเป่าเสร็จชายหนุ่มหันหน้าไปมองยังหน้าต่างห้องก็เห็นสายฝนยังคงเทลงมาอย่างไม่ขาดสายและไม่มีทีท่าว่าจะหยุด มันทำให้เขาคิดถึงเหตุกาณ์ที่ผ่านมาเกือบหนึ่งชั่วโมงที่แล้ว เขารู้สึกว่าเขาโชคดีจริงๆที่จู่ๆก็มีคนเอาร่มมาให้เขายืมโดยที่เราไม่รู้จักกันเลยด้วยซ้ำ เขาคงต้องหาอะไรตอบแทนเจ้าของร่มเสียแล้ว
“ชิบหายละ ลืมขอเบอร์” ชายหนุ่มตบหน้าผากตัวเองเบาๆกับความขี้ลืมของตัวเอง เขาวิ่งออกจากห้องไปไปยังร่มที่เขาตากทิ้งไว้เพื่อหาอะไรบางอย่างบนร่มเผื่อเจ้าของร่มเขาจะเขียนชื่อติดไว้ แล้วเขาก็เจอ
B A M B A M
ชายหนุ่มสะกดตัวอังษรภาษาอังกฤษแล้วอ่านมันซ้ำไปมาเขาคิดว่านี่คงเป็นชื่อของเจ้าของร่มแต่เขาก็รู้แค่เพียงชื่อเท่านั้นเพราะเขายังหาช่องทางที่จะติดต่อเจ้าของร่มไม่เจอเลยจนสะดุดเข้ากับตัวหนังสือเล็กๆที่ติดร่ม
Bambam1a
.
.
.
.
.
.
.
ตือ ดึง
MARK TUAN
เพิ่มคุณจาก LINE ID

_________________________________________________________________
ฟิคชั่ววูบตอนแต่งฟิคบ้านไรท์ฝนตกหนัก
ไรท์เลยแต่ง ฮ่าๆๆ

วันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

[MARKBAM] ยอม


ยอม MB


“มาร์ค” ทันทีที่เปิดประตู ร่างบางก็โถมเข้าหา และกอดเจ้าของห้อง ความรู้สึกเปียกบนแผ่นอกกว้าง มาร์คจึงได้รับรู้ว่าอีกคนกำลังร้องไห้
“ทะเลาะกับเขามาเหรอ”  มาร์คถามพร้อมกับลูบหัวร่างบางเพื่อปลอบเบาๆ แต่นั่นกลับทำให้อีกคนร้องไห้หนักมากขึ้น
มาร์คปล่อยให้ร่างบางร้องไห้จนพอใจ แล้วจึงพาเข้าห้อง

….

….

“ขอบคุณนะ” แบมแบมรับแก้วชอคโกแลตร้อนจากมาร์ค ก่อนจะจิบเล็กน้อย รสหวานอมขมกระจายไปทั่วทั้งปาก
“งั้นนายก็อยู่ด้วยกันกับพี่ก่อนก็ได้” มาร์คบอกอย่างยิ้มๆ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกหรอกที่แบมแบมร้องไห้มาหาเขาอย่างนี้
“อือ”



แบมแบมหลับไปแล้ว เหลือเพียงแต่มาร์คที่ไม่อาจจะข่มตาให้หลับลงได้
ถ้ามันลำบากมากนัก แล้วทำไมไม่เลิกกับมันไปซะล่ะครั้งหนึ่งที่มาร์คเคยบอกไปกับแบมแบม เพราะครั้งนั้นทะเลาะกันหนักถึงขั้นทำร้ายร่างกาย
อย่าพูดแบบนี้นะมาร์ค คนอย่างพี่ไม่มีวันเข้าใจหรอกแบมแบมเผลอขึ้นเสียงใส่มาร์ค
เข้าใจสิ… ทำไมจะไม่เข้าใจ นั่นเป็นเสียงที่มาร์คได้แต่บอกกับอีกคนแค่ในใจ
“ทำไมถึงยังร้องไห้เพราะมันอีก” มาร์คพลิกตัวหันหน้าเข้าหาแบมแบม ดวงตาคู่ที่มาร์คหวงนักหนากลับร้องไห้ให้มันมานับครั้งไม่ถ้วน
ถ้าเลือกได้ เขาอยากจะรับมันแทนทั้งหมด ความรู้สึกแย่ของแบมแบม
อะไรก็ได้ที่ทำให้แบมแบมเสียใจ มาร์คอยากรับเอาไว้เองเพียงคนเดียว

….
….

“แบมแบม ตื่นได้แล้ว” มาร์คเดินเข้ามาปลุกอีกคนในห้อง
“อือออ” แบมแบมครางขึ้นมาอย่างขัดใจ แต่ก็ยอมลืมตาขึ้นมา
“ไปวิ่งกันเถอะ” ร่างสูงบอกอย่างกระตือรือร้น จนแบมแบมอดที่จะปฏิเสธไม่ได้

….

“ค่อยๆดื่มนะ” มาร์คส่งขวดน้ำให้แบมแบมหลังจากที่วิ่งกันมาเสร็จเรียบร้อย
“ไม่ได้ออกกำลังกายแบบนี้มานานแล้วแฮะ”  ร่างบางบอกพร้อมกับส่งยิ้มให้มาร์ค ก่อนจะค่อยๆดื่มน้ำและส่งขวดน้ำคืนกลับไป “อากาศตอนเช้านี่สดชื่นดีจังเลยนะ” ตอนนี้ดวงตากลมมองไปรอบๆสวนสาธารณะที่มาร์คพามาวิ่ง
“งั้นพรุ่งนี้เรามากันอีกมั้ย” มาร์คเอ่ยปากชวน
“ไม่รู้สิ ถ้าตื่นไหวอ่ะนะ” และทั้งสองก็หัวเราะไปด้วยกัน
นี่เป็นสิ่งที่มาร์คอยากให้แบมแบมรู้สึก
เป็นอย่างนี้ตลอดไปไม่ได้รึไง แบมแบม…

….

วันนี้มาร์คกลับจากทำงานเร็วกว่าปกติเพราะไม่อยากให้ร่างบางอยู่คนเดียวนานๆ
“กลับมาแล้ว”
เงียบ…
ขายาวรีบตรงดิ่งเข้าไปในห้องนอน มาร์คถอนหายใจอย่างโล่งอก บนเตียงยังมีแบมแบมนอนอยู่
“ตื่นได้แล้ว เย็นแล้วนะ” มาร์คกระซิบบอก แต่สายตาเหลือบไปเห็นโทรศัพท์ในมือของร่างเล็ก จึงถือวิสาสะหยิบขึ้นมาดู
“ทำอะไรน่ะ” มาร์คตกใจ เพราะหลักฐานยังคามืออยู่
“พี่ขอโทษ” มาร์คบอกก่อนจะส่งโทรศัพท์คืนเจ้าของไป
“ช่างมันเถอะ ผมหิวแล้ว พี่ซื้ออะไรมากินบ้าง” แบมแบมบอกพร้อมกับลุกขึ้นจากเตียงไปล้างหน้าล้างตา
“ไก่กับโคล่า” ร่างสูงบอก
เพราะนั่นเป็นของโปรดของแบมแบม มาร์คจำได้
“แล้วไม่มีเบียร์เหรอ” แบมแบมที่ออกมาจากห้องน้ำตะโกนถามมาร์คที่ตอนนี้กำลังจัดเตรียมอาหารอยู่ในครัว
มาร์คชะงักมือทันที ความรู้สึกน้อยใจตีเข้ามา
มาร์คไม่ดื่มเบียร์ หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด
“นายอยากกินเหรอ” มาร์คเดินมาถาม เพราะอะไรที่แบมแบมต้องการ หากร่างเล็กต้องการเขาก็ยินดี
“ใช่ ถ้าได้กินเบียร์ก็คงจะดี”


“กินด้วยกันสิ” แบมแบมยื่นกระป๋องเบียร์ที่พร่องไปแล้วครึ่งกระป๋องให้ร่างสูง
“ไม่ดีกว่า” มาร์คปฏิเสธและหยิบโคล่าขึ้นมาดื่มแทน
“อะไรกัน ทำตัวเป็นเด็กอนามัยไปได้” แบมแบมบ่นก่อนจะกระดกเบียร์เข้าไปอึกใหญ่ มาร์คมองใบหน้าเนียนที่ขึ้นสีระเรื่ออย่างหลงใหล
สารภาพตรงนี้เลยละกัน ว่าเขาอยากจูบร่างบางตรงหน้า
แต่หากทำอย่างนั้น ที่ยืนข้างกายแบมแบมคงไม่มีที่ให้เขาอีกแน่นอน…

…..
….
….

แบมแบมหลับไปแล้ว… หลังจากที่เมาและเอาแต่ร้องหา มันคนที่มาร์คเกลียดแสนเกลียด
เป็นพี่บ้างไม่ได้เหรอ ที่นายจะต้องการ… มาร์คคิดอย่างน้อยใจ
ร่างสูงมองมือถือของแบมแบม แอพแชทยังคงเปิดค้างไว้ จึงถือโอกาสหยิบมันขึ้นมา ตาคมไล่อ่านข้อความที่สนทนากันก่อนหน้า ที่มีแต่ฝ่ายแบมแบมที่คุยอยู่เป็นฝ่ายเดียว
เพราะแบมแบมรักมันมาก จนเขารู้สึกอิจฉา
หรือเพราะว่าเขาแสนดีอย่างนั้นเหรอ ที่ทำให้แบมแบมคิดกับเขาเพียงแค่พี่ชาย แล้วถ้าหากเขาร้ายล่ะ ร้ายแบบ มันแบมแบมจะรักเขารึเปล่า?
มาร์คก็ได้แต่สงสัย….

….
….
….

ก๊อก… ก๊อก… ก๊อก…
แบมแบมที่กำลังจดจ่ออยู่กับนักเตะในจอที่กำลังวิ่งตามลูกกลมๆ จนไม่ได้สนใจเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้น แต่ก็ยังมีกะใจที่เรียกร่างสูงเจ้าของห้องให้ไปเปิดรับแขก
“พี่มาร์ค! มีคนมา”
“แบมไปเปิดประตูให้พี่หน่อยได้มั้ย ตอนนี้พี่ยุ่งอยู่” มาร์คตะโกนมาจากในครัว
แบมแบมลุกขึ้นอย่างขัดไม่ได้ ก็ยังไงล่ะ เจ้าของห้องเค้าสั่งอ่ะ!
เพียงไม่กี่ก้าว ร่างบอบบางก็มาหยุดหน้าประตู และเปิดรับแขกของห้อง
“….”
“พี่มารับแบมกลับ” เจ้าหนวดแมวข้างตาบอกอย่างอ่อนโยน เพราะเขามารับกระต่ายน้อยของเขากลับ
เพียงแค่คำพูดเดียว กำแพงต่อคนๆนี้ที่สร้างขึ้นมาก่อนหน้านี้ก็พังทลายลงไปหมดในทีเดียว แบมแบมโผเข้ากอดคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกแสนคิดถึง
“พี่มันบ้า…” แบมแบมพูดออกมาได้แต่นั้น เพราะมืออบอุ่นที่มาลูบหัวเขาอย่างอ่อนโยน
“กลับไปคราวนี้ พี่จะดูแลเราอย่างดีเลย หายโกรธพี่นะครับ” จินยองพูดได้เพียงแค่นั้น


จินยองพาแบมแบมกลับไปแล้ว ในห้องสี่เหลี่ยมนี้เหลือเพียงแค่มาร์คเพียงคนเดียว ทั้งๆที่นาทีที่แล้วยังมีแบมแบมอยู่เลย
อาหารง่ายๆที่ทำขึ้นเพียงจานเดียวตั้งแต่แรก เพราะมาร์คตั้งใจ
เขารู้อยู่แล้วว่าเย็นนี้ต้องเหลือเขาที่ต้องทานข้าวเย็นหรือมื้อต่อๆไปเพียงคนเดียว
มาร์คเองแหละ ที่เป็นคนบอกให้จินยองมารับแบมแบมกลับ
อย่าทำให้แบมแบมเสียใจอีก. ไม่อย่างนั้นนายจะไม่มีวันได้เจอหน้าแบมแบมอีก’  มาร์คบอกทิ้งท้ายกับจินยองก่อนจะพาแบมกลับ และแน่นอนว่าเขาทำได้จริงๆแน่
ความจริงแล้ว มาร์คอยากจะทำตามใจตัวเอง อยากจะยึดแบมแบมให้อยู่กับตัวเขาไปอีกนานแสนนาน แต่พอเห็นน้ำตาของแบมแบม เห็นแบมแบมเอาแต่จ้องมองโทรศัพท์รอใครอีกคนแล้ว เขาทำไม่ลง เขาเห็นแก่ตัวแบบนั้นไม่ได้…
หากบอกว่ารักเขาแล้วยอมปล่อยเขาไปคือความขี้ขลาด งั้นมาร์คก็จะยอมเป็นคนขี้ขลาด ยอมแลกกับความสุขของแบมแบมแค่คนเดียว….






By KunpiBook
______________________________________________________________________________

เรื่องนี้เพื่อนไรท์แต่แล้วเอามาให้ไรท์ลงให้
ไรท์อ่านแล้วสงสารพระเอกมาก ทำไมเพื่อนไรท์โหดร้ายแบบนี้









วันศุกร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2559

[MARKBAM]อยากเป็นคนสำคัญของเธอ




อยากเป็นคนสำคัญของเธอ MB




“ดูนั่นสิ เขามาแล้ว”
“โอ๊ย ทำไมหล่อแบบนี้นะ”
“ฉันจะไม่ทน พ่อของลูกชัดๆ”
ใครเขาอยากเป็นพ่อของลูกเธอกันผู้หญิงพวกนี้มโนกันน่ากลัวจริงๆเลย แต่ก็จะโทษพวกเธอก็ไม่ได้เพราะผมน่ะมันหล่อจริงๆของป๊าเขาแรงครับผมเลยได้เชื้อมาดี นี่ผมก็ไม่ได้อวยตัวเองหรอกนะเพราะที่ผมพูดมาทั้งหมดนี่คือความจริงล้วนๆ แต่ก็ได้เท่านั้นแหละครับเพราะว่ามีคนนึงเขาไม่สนใจผมเลย มันทำให้ผมเริ่มไม่มั่นใจแล้วล่ะว่าผมหล่อเหมือนที่ว่ามาจริงๆมั้ย วันๆผมเห็นเขาเอาแต่นั่งอ่านหนังสือไม่สนใจสิ่งรอบข้างเลย ไปไหนมาไหนคนเดียวไม่สุงสิงกับใครตั้งแต่ที่ผมบังเอิญเห็นเขาบ่อยๆนะผมยังไม่เคยเห็นเพื่อนเขาเลยสักคน
“มาร์คยืนดูอะไรของมึงอ่ะ” เสียงของไอ้แจ็คสันเพื่อนรักเรียกให้ผมหลุดออกจากภวังค์ก่อนที่จะเดินไปหามันกับไอ้เจบีที่ตั้งท่าจะเดินมาหาผม ไม่ได้ๆต้องดักไว้ก่อนเดี๋ยวมันรู้ว่าผมดูอะไร
.
.
.
.
.
.
.
นั่นไงๆ น้องแบมแบมนั่งอยู่ตรงนั้นคนเดียวอีกแล้ว ไม่ได้การละผมควรจะอยู่เป็นเพื่อนน้อง ผมเป็นรุ่นพี่ที่ดีครับและที่ที่ผมอยู่ตรงนี้มันก็ดีต่อการหลบแฟนคลับผมด้วย -พุ่มไม้-
กึก
“โอ๊ย” น้องแบมร้องออกมาเบาๆหลังที่ผมปาลูกอมรสสตอเบอรี่ไปให้น้องแบมด้วยความรักสงสัยความรักของพี่มาร์คกระแทกหัวน้องแรงไปหน่อยน้องแบมถึงร้องออกมา น้องแบมเก็บลูกอมแล้วหันซ้ายหันขวาเหมือนจะหาเจ้าของและที่มาของลูกอม ฮี่ฮี่ มาร์ค ต้วน ผู้นี้ไม่แสดงตัวให้เห็นหรอก
กึก
“โอ๊ย” ต้องปาอีกเม็ด
กึก
“โอ๊ย” ยังไม่พอหรอก
กึก
“โอ๊ย” ความรักพี่มีเยอะ น้องแบม
กึก
“โอ๊ย” เสียงสุดท้ายร้องขึ้นหลังจากที่ผมปาลูกอมเม็ดที่ห้าไปน้องก็ลุกขึ้นยืนแล้วเก็บหนังสือที่อยู่บนโต๊ะลงกระเป๋าพร้อมลูกอมห้าเม็ดของผมด้วยแล้วเดินออกไปจากโต๊ะทันทีที่ได้ยินเสียงกริ่งของโรงเรียนดังบอกเวลาเริ่มคาบบ่าย ผมโผล่ออกมาจากพุ่มไม้แล้วก็ค่อยๆเดินออกมา อ่า กลับห้องตัวเองบ้างดีกว่าทำไมรู้สึกมีความสุขจังเลยนะรู้สึกหน้าจะบานๆด้วย แก้มก็ปวด ยิ้มจนปากจะฉีกแล้ว น้องแบมบ้าทำพี่มาร์คเขิน
.
.
.
.
.
.
.
ภารกิจวันนี้ยังไม่เสร็จสิ้นหรอกนะครับเพราะผมเป็นรุ่นพี่ที่ดีต้องส่งรุ่นน้องกลับบ้านเข้าตามโครงการส่งน้องกลับบ้าน ตอนนี้ผมก็กำลังเดินส่งน้องอยู่ดีหน่อยที่ทางเข้าบ้านน้องมันไม่เปลี่ยวเท่าไหร่แต่ก็ไว้ใจไม่ได้เหมือนกันผมคิดว่าผมเป็นบอดี้การ์ดให้น้องดีสุด แต่น้องเขาไม่รู้ตัวหรอกครับเพราะผมแอบตามมาส่งเขาแบบลับๆและนี่เป็นครั้งแรกที่ทำด้วยมาส่งน้องเข้ากลับบ้านเนี่ย น้องแบมเดินไปเรื่อยๆอย่างไม่คิดอะไรมากแบบนี้น้องเขาไม่ระวังตัวเลยนะถ้าเกิดว่ามีโจรโรคจิตตามน้องอยู่จะทำยังไง นี่ขนาดผมตามน้องเขายังไม่รู้ตัวเลย แย่จัง ผมว่าผมควรมาส่งน้องกลับบ้านบ่อยๆซะแล้ว
โฮ่ง ง
เสียงหมาทำให้น้องแบมหยุดเดินก่อนที่เจ้าหมาจะมองหน้าน้องแบม ไอ้หมานี่กล้าดียังไงมองหน้าน้องแบมเนี่ย มันหาเรื่องน้องแบมแน่ๆผมเห็นน้องแบมยืนตัวสั่นเลยอย่างนี้ผมต้องไปช่วยน้องเขาจากไอ้หมาเวลช์ คอร์กี้นี่ซะแล้ว
กึก
ทันทีที่ผมกำลังจะเดินออกจากที่ซ่อนผมก็เห็นผู้ชายตัวใหญ่ร่างท้วมเดินเข้ามาหาน้องแบมแล้วน้องแบมก็กระโดดกอดผู้ชายคนนั้นด้วยพร้อมกับเจ้าหมาขาสั้นที่ตอนนี้กระโดดไปมารอบสองคนที่กำลังกอดกัน นั่นพ่อน้องแบมหรอ หน้าตาใจดีเหมือนน้องแบมเลย ตอนนี้หน้าที่ผมก็เสร็จแล้วสิเนี่ยผมควรกลับบ้านได้ละ

ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า
เสียงหัวเราะจากในตัวบ้านที่ฟังแล้วดูทุกคนมีความสุขกันจังเลย ความจริงผมกลับบ้านแล้วกลับมาบ้านน้องแบมเนี่ย ไม่รู้เพราะอะไรบอกตัวเองควรกลับบ้านเท้าก็เดินตามเขากับพ่อมาต้อยๆจนมาถึงบ้านน้องแบมแล้วมองเขาจากข้างนอกบ้านเนี่ย สโตกเกอร์รึไงล่ะกู
เฮ้อ กลับบ้านดีกว่ามิชชั่นคอมพลีท
.
.
.
.
.
หันซ้ายแลขวา ไม่มี ไปได้ ตอนนี้เป็นตอนเที่ยงของวันเด็กนักเรียนคนอื่นไปทานข้าวเที่ยงกันหมดแล้วทุกคนที่นี่ไปทานที่โรงอาหารกันแหละยกเว้นก็แต่คนนึงที่อยู่ที่ห้องทานข้าวเที่ยงคนเดียว และตอนนี้เป็นเวลาอันสมควรแล้ว ผมเดินมาโต๊ะน้องแบมที่ตอนนี้มีข้าวกล่องวางอยู่บนโต๊ะสงสัยตอนนี้น้องแบมคงไปล้างมือที่ห้องน้ำแน่เลย ผมรีบวางของแล้วรีบเดินออกมาเดี๋ยวน้องแบมเห็นจะยุ่งเอา ไม่ได้ๆ
ผมเห็นน้องแบมเดินเข้ามาในห้องแล้วครับผมไม่ได้ไปไหนไกลหรอกแอบๆอยู่แถวหน้าห้องน้องนี่แหละ น้องดูเหมือนจะงุนงงกับสิ่งของตรงหน้านะ มันคือนมสตอเบอรี่ที่มีโพสอิสลายมือผอแปะไว้ผมชอบมากผมดื่มมันทุกวันและผมก็อยากแบ่งปันสิ่งที่ชอบให้น้องแบมด้วย ผมมองดูน้องแบมกินข้าวไปเงียบๆเรียกอีกอย่างว่านั่งเฝ้าน้องแบมกินข้าวก็ว่าได้ ผมรอจนน้องแบมกินเสร็จนั่นแหละแล้วน้องเขาก็ยกกล่องนมขึ้นก่อนจะเจาะแล้วดูด
YES
MISSIONS COMPLET
.
.
.
.
.
.
.
นี่ก็ผ่านมาสามเดือนแล้วครับทุกอย่างยังเหมือนเดิม ให้ขนมน้องแบม ไปส่งน้องกลับบ้าน ให้นมสตอเบอรี่ ลับๆ ผมทำแบบนี้ซ้ำๆผมคิดว่าผมมีความสุขนะแค่ได้ดูได้มองได้ดูแลน้องเขาแบบห่างๆแบบนี้ อยู่ห่างๆอย่างห่วงๆไม่ได้ต้องการที่จะครอบครองเขาไว้กับตัวเองเป็นแบบนี้มันก็ดีแล้ว
ซะเมื่อไหร่ล่ะ
ไอ้บ้านั่นมันเป็นใคร กล้าดียังไงมาคุยกับน้องแบมแบบนี้ แล้วไหนมันกำลังเดินไปส่งน้องแบมที่บ้านอีกนี่มันหน้าที่ผมนะ ไอ้บ้านี่ รู้งี้ไม่ปล่อยไว้แบบนี้ก็ดีน่าจะบอกน้องตั้งแต่วันแรกที่ชอบไปเลย ดูมันๆมาส่งก็กลับสิวะหน้าด้านเข้าบ้านน้องแบมทำไมเนี่ย นี่มาส่งทุกวันยังได้แค่แตะรั้วบ้านมองเขาเลย ช่างกล้าแท้
ไม่ไหวแล้วเว้ย ต้องบอกน้องเขา ต้องแสดงตัว จะให้หมาคาบไปแดกไม่ได้
แกร๊ก
เสียงเหมือนประตูทำให้ผมที่ยืนอยู่ข้างๆรั้วบ้านต้องรีบไปแอบหลังพุ่มไม้ทันที ผมมองน้องแบมกับไอ้หน้าด้านคุยกันที่หน้าประตูบ้านอย่างกระหนุงกระหนิงขัดลูกกะตามาก แต่ก็ทนดูจนจบ ทั้งสองกอดกันก่อนแยกย้ายไปผมจึงออกมาจากที่ซ่อน อะไรวะนี่ชอบมาสามเดือนมือยังไม่ได้แตะขนาดใกล้ในระยะสองเมตรยังไม่เคยเลย ไอ้นี่มาแป๊บเดียวได้กอดจากน้องแบมไปเฉยเลยต่อหน้าต่อตามาร์ค ต้วนคนหล่อคนนี้ด้วย หรือว่ารักครั้งนี้ควรจะปล่อยไป?
สู้ต่อมีทางชนะมั้ย?
ควรเปิดเผยตัวตนแล้วจีบแบบเปิดเผย?
.
.
.
.
.
.
.
.
ก๊อก ก๊อก ก๊อกๆๆๆๆๆๆๆๆ
เสียงเคาะประตูหน้าบ้านทำให้ผมจำต้องตื่นมาเพื่อไปเปิดประตู ประตูรั้วบ้านผมจะไม่ล็อคแต่จะปิดไว้เฉยๆถ้ามาก็เคาะที่ประตูบ้านเอาคนที่สนิทกับผมจะรู้ข้อนี้ ใครมากัน เจบี?แจ็คสัน? วันนี้ไม่ใช่วันหยุดแต่ผมหยุดเองรู้สึกไม่มีอารมณ์จะเรียนไม่อยากเจอหน้าน้องแบมรู้สึกทำใจไม่ได้แบบประหลาดๆเลยหยุดเรียนมันซะเลยขี้เกียจไปเรียนด้วยแหละประเด็น ผมเดินไปเปิดประตูบ้านก่อนจะดูว่าใครมาใบหน้าน่ารักในชุดนักเรียนที่ยืนยิ้มแฉ่งให้ผมพร้อมกับของมากมายในมือเล่นเอาผมช็อคไปเลย น้องแบม!
“ได้ข่าวว่าไม่สบาย” น้องว่าแล้วก็แทรกตัวเข้ามาในตัวบ้านทันทีผมได้แต่ยืนช็อคไม่หายกับการที่เจอคนตัวเล็กที่นี่ มาได้ยังไง? ไปรู้ที่อยู่บ้านตอนไหน? ผมปิดประตูแล้วเดินตามคนตัวเล็กไปอย่างเงียบๆ ทำไมต้องมาตอนนี้ด้วยนะยังไม่พร้อมเจอหน้าเลย
“ห้องครัวอยู่ไหนฮะ” ผมชี้บอกทางคนตรงหน้าที่ตอนนี้เดินเข้าไปในห้องครัวแล้ว น้องแบมใส่ชุดนักเรียนวันนี้โรงเรียนไม่หยุดอย่าบอกนะว่าหนีเรียนมาน่ะ
“หนีเรียนหรอ” ผมถามคนตัวเล็กที่เดินไปเดินมาหาอุปกรณ์ครัว
“เปล่า มาดูแลคนป่วย” ผมไม่ได้เป็นอะไรเลยนะครับผมว่าน้องแบมมาผิดบ้านรึเปล่านะ
“ที่นี่ไม่มีใครป่วยนะ” ผมพูดตามความจริงผมไม่ได้ป่วยอะไรเลยเมื่อเช้าแค่โทรบอกไอ้เจบีว่าป่วยตอแหลให้มันลาครูให้ น้องแบมหยุดชะงักนิดนึงก่อนที่จะชี้นิ้วมาทางผม
“นี่ไงคนป่วย พี่แจ็คสันกับพี่เจบีบอกมางี้” ว่าเสร็จน้องแบมก็หันหลังกลับไปทำอาหารเหมือนเดิมโดยไม่สนใจผมอีกเลย
“เสร็จแล้วครับ” น้องจัดการยกอาหารมาวางให้ผมตรงหน้าพร้อมกับนั่งตรงข้ามผมทันที
“ทานสิฮะ” น้องแบมพยายามคะยั้นคะยอให้ผมทานอาหารหลังจากที่ผมเอาแต่นั่งนิ่งคือผมกำลังงงกับการที่น้องมาอยู่ที่บ้านผม มันก็ดีใจด้วยแหละนะที่จู่ๆคนที่ชอบมาที่บ้านแต่ก็สงสัยมาทำไมกัน
ผมนั่งทานข้าวที่น้องแบมทำไปเรื่อยๆไม่อยากจะบอกเลยว่าน้องเขาทำอร่อยมากๆฝีมือนี่คุ้นๆเหมือนจะเป็นภรรยาผมในอนาคตเลยครับคุณผู้ชม เราทั้งคู่ต่างฝ่ายก็ไม่ได้พูดไรออกมาน้องแบมนั่งมองผมทานข้าว ทำเอาเขินจนกินลำบากกันเลยทีเดียวแต่ทันทีที่ผมทานหมดน้องเขาก็หยิบจานผมไปแล้วก็จัดการล้างให้ทันที นี่น้องเขาเตรียมเป็นภรรยาผมจริงๆใช่มั้ยเนี่ย
“นี่ยาครับ” น้องวางลูกอมรสสตอเบอรี่กับนมกล่องรสสตอเบอรี่ที่ผมชอบกินไว้บนโต๊ะ
“ขอตัวกลับนะครับ” ว่าเสร็จก็ลุกเดินออกไปเลย อะไรกันเนี่ย มาแค่นี้แล้วก็ไปน้องแบมต้องการอะไรจากพี่มาร์คครับมาให้ความหวังงั้นหรอหรืออะไร เอ๊ะ แล้วน้องรู้จักผมด้วยหรอปกติไม่เห็นสนใจใครหนิ ผมหยิบนมสตอเบอรี่ที่มีโพสอิสติดอยู่ตอนน้องเอามาวางไว้ก็ไม่เห็นหรอกแต่พอพลิกกล่องถึงเห็น
ไม่เข้ามาขอคบสักที
แบบนี้แล้วผมจะตอบตกลงได้ไงล่ะพี่มาร์ค ต้วน
-แบมแบม-
ข้อความนี่มันอะไรกัน  หรือว่าน้องรู้เรื่องที่ผมแอบดูแลน้องเขาตลอดนี่มันเรื่องบ้าอะไรกันน้องเขารู้นานแล้วหรอวะ แล้วผู้ชายคนเมื่อวานล่ะใคร ไม่ได้การล่ะน้องแบมอ่อยขนาดนี้ผมจะยอมไม่ได้ ผมลุกขึ้นวิ่งออกไปตามอีกคนทันทีที่คิดได้ผมวิ่งมาเรื่อยๆมาหน้าปากซอยเพราะว่าถ้าเลี้ยวขวาไปอีก50เมตรก็จะเป็นป้ายรถเมล์หวังว่าน้องแบมยังไม่ขึ้นรถไปนะ นั่นไง น้องแบมกำลังเดินขึ้นไปแล้วผมวิ่งสุดกำลังเพื่อให้ถึงตัวน้องแบม
หมับ
ในที่สุดผมก็จับแขนน้องเขาได้ผมลากน้องแบมลงมาจากรถที่น้องกำลังขึ้นได้แค่บันไดขั้นแรกน้องเขาก็เดินตามมาอย่างว่าง่ายพร้อมกับก้มหน้าไม่ยอมเงยขึ้นมาเลย
“คบกับพี่นะ” ผมหยุดลากน้องแบมแล้วก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรผมจับมือน้องแบมไว้ทั้งสองข้างแล้วขอคบทันทีเลยผมกลัวว่าช้ากว่านี้แล้วคนตรงหน้าจะหายไป แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือความเงียบน้องแบมไม่ตอบอะไรผมเลยมันริ่มทำให้ผมใจสั่น หรือว่าสิ่งที่เขียนในโพสอิสจะเป็นเรื่องโกหก
“น้องแบมคบกับพี่มาร์คนะ” ผมพูดไปอีกครั้งโดยเอ่ยชื่อน้องแบมกับชื่อผมลงไปด้วยเผื่อเมื่อกี้น้องไม่รู้ว่าผมขอคบใครแต่ปฏิกิริยาที่ตอบสนองของน้องแบมคือแก้มที่แดงเหมือนลูกมะเขือเทศพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูเหมือนจะกลั้นมันไว้ น้องแบมพยักหน้าน้อยก่อนจะก้มหน้าเขินมันทำให้ผมยิ่งอยากแกล้งคนตรงหน้านี้
“น้องแบมเป็นแฟนพี่มาร์คนะ” ทันทีที่ผมเอ่ยประโยคนี้มันยิ่งทำให้น้องก้มหน้ามากกว่าเดิมแก้มที่ว่าคงไม่แดงมากกว่านี้แล้วกลับแดงมากขึ้นไปอีกอะไรจะเขินขนาดนั้นนะน้องแบม
“น้องแบมเป็นแฟนพี่มาร์คแล้วนะ”ผมก็ถามย้ำเรื่อยๆแกล้งอีกคนที่ก้มหน้าอยู่น้องแบมก็พยักหน้าตอบกลับมาแต่ก็ไม่เงยหน้ามองผม
“น้องแบมเป็นแฟนพี่มาร์คแล้วจริงๆนะ”
“งื้อออ” พอผมพูดย้ำมากขึ้นน้องก็ส่งเสียงเหมือนงอแงพร้อมกับยกกำปั้นขึ้นมาทุบอกผมเบาๆแล้วซบลงที่อกผม โอกาสเหมาะขนาดนี้ผมไม่พลาดยกแขนขึ้นโอบกอดคนตรงหน้าทันที ตัวหอมจัง
“เป็นแฟนกันแล้วจริงๆนะ” ใครจะว่าผมย้ำทำไมนักหนาแต่ผมอยากจะย้ำมันแบบนี้นี่ก็นะผมอยากมั่นใจว่าไม่ได้ฝัน
“อื้อออ” น้องตอบกลับมาในลำคอทั้งๆที่หน้าก็ซบอกผมอยู่
“ไหนจะตอบตกลงไง” ผมท้วงร่างเล็กในอ้อมกอดอีกทีก็ตั้งแต่พูดขอคบมานี่น้องแบมยังไม่ตอบตกลงเลย
“ตกลง” น้องแบมตอบตกลงแบบว่าง่ายหรือน้องรอพูดคำนี้นานแล้วผมนี่มันนิสัยไม่ดีจริงๆให้น้องค่อยนาน
เป็นแฟนกันแล้วก็ควรจะทำอะไรที่แฟนเขาทำกันสินะ ผมผละอ้อมกอดออกจากน้องแบมลืมไปเลยว่านี่อยู่ข้างถนนผมจับมือน้องแบมมาก่อนจะลากน้องเขาอีกที ผมควรจะทำอะไรที่แฟนเขาทำกัน
“พี่มาร์คจะพาแบมไปไหน” น้องแบมเหมือนจะตกใจที่จู่ๆผมก็ลากมาแต่น้องก็ตามมาแต่โดยดี
“ไปเดท”
“หะ เดท!” เสียงน้องดูเหมือนตกใจกับคำตอบของผม ก็แน่ล่ะมันกะทันหันแบบนี้ใครจะไม่ตกใจ
“ที่ไหน ทำไมกะทันหันแบบนี้ล่ะพี่มาร์ค” คำถามของน้องไม่ได้ทำให้ผมหยุดเดินแต่ทำให้ผมหันหน้ามาตอบพร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยน
“บ้านจ๊ะ”



END



______________________________________________________________

ชื่อเรื่องไม่สัมพันธ์กับเนื้อเรื่องเลย ฮ่าๆ